วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

หมวกที่เราใส่นั้นมีหลายสี

รู้ทันว่า “หมวกที่เราใส่นั้นมีหลายสี”
สวีสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนมีข้อคิดในการดำเนินชีวิตที่เป็นแง่คิดเตือนใจ เรื่อง “หมวกที่เราใส่นั้นมีหลายสี” มาช่วยกันแชร์ความคิดนะครับ

เราจะเห็นว่าโลกเราทุกวันนี้ต่างก็กำหนดหน้าที่ต่าง ๆ ส่งผลให้เรามีหลายบทบาทในเวลาซึ่งหลาย ๆ ท่านอาจเคยได้ยิน ได้ฟังกันมาแล้วว่า “พวกเรากำลังสวมหัวโขน หรือ สวมหน้ากากอยู่” ใครได้บทใดเป็นตัวละครใด ก็ให้แสดงไปตามบทตามตัวละครที่ได้มา แต่ผู้เขียนขอเรียงคำเหล่านั้นเพราะดูเหมือนว่าเราต้องสวมมันอยู่ตลอดเวลา โดยขอใช้คำว่า “พวกกำลังสวมหมวก” ด้วยเห็นผลที่ว่า การใส่และการถอดหมวกนั้นมันง่ายเสียจนหลาย ๆ คนมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปกันนะครับ ที่นี้เราลองมาดูบทบาทในหมวกกันนะครับว่าในทุกวันนี้เราเป็นอะไรกันบ้าง ณ. ช่วงเวลาเดียวกัน
 หมวกใบแรกเมื่อเราเกิดมานะครับ “คุณค่าของความเป็นมนุษย์”
 หมวกใบที่สอง คือสถานะ “ความเป็นชาย-หญิง”
 หมวกใบที่สาม คือสภาพ “ความเป็นลูก”
 หมวกใบที่สี่ คือ “ความเป็นเพื่อน”
 หมวกใบที่ห้า คือ “ความเป็นลูกศิษย์”
 หมวกใบที่หก คือ “ความเป็นผู้ใหญ่ เข้าสู่วัยทำงาน”

ตามผู้เขียนมาถึงหมวกใบที่ หก ที่เป็นหมวกเจ้าปัญหา และก่อความวุ่นวายในชีวิตของคนเรามากมายเพราะเจ้าหมวกใบนี้ได้รับมาพร้อมกับกรอบความรับผิดชอบของสังคมที่เป็นตัวบงชี้ความสำเร็จของผู้ส่วมใส่ และหากเรามองลึกลงไปภายในหมวกใบนี้เราจะได้พบกับกล่องดำที่มืดมิดมิหนำซ้ำภายในกล่องยังบรรจุหมวกไว้อีกหลากหลายให้เราส่วมใส่ หรือถูกหยิบยื่นให้ส่วมใส่โดยไม่รู้ตัวด้วย อาทิเช่น หมวกที่บ่งบอกความเป็นเจ้านาย,หัวหน้า, ลูกน้อง, นายจ้าง, ลูกจ้าง, ฯลฯ และอีกมากมายเลยใช่ไหมละครับ

ต่อจากนี้ไปผู้เขียนขออนุญาตนำผู้อ่านไปติดตามตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย ๆ เพื่อนำมาเป็นแง่คิด มุมมองเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้นำไปใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์และหาวิธีสวมใส่หมวกหลายสีที่พวกเรามีกันอยู่อย่างสนุกสนานและสร้างความสุขในการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างปกติสุขกันนะครับ

คุณชาย กังวล จอมเครียด ท่านเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชลที่มีผลประกอบการดีเยี่ยม ท่านเป็นผู้มีบารมีมากในการทำงาน มีลูกน้องเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างให้ความเคารพท่าน ไม่ว่าจะสั่งการใด ๆ เรียกว่าทุกๆ คนในบริษัทต้องยินยอมทำตามความต้องการของท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ทุกๆวันท่านมักบ่นว่าไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตในครอบครับเพราะมักบ่นให้เลขาคนสนิทฟังเสมอว่า “มีลูกน้องตั้งมากมายทุกคนให้ความเคารพสั่งอย่างไรได้อย่างนั้น แต่เจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่บ้านมีแค่คนเดียวเองกลับสั่งอะไรไม่ได้มีปากเสียงกันเกือบทุกวัน” ทำไมผมบอกอะไรเขาไม่เคยฟังและทำตามเลย

จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นผู้เขียนขอนำประเด็นหมวกหลายสีมาวิเคราะห์เหตุการณ์ให้ท่านผู้อ่านได้ดังนี้คือ คุณกังวล จอมเครียด ได้ สวมหมวกของ ”ความเป็นเจ้านาย” และนำกลับไปที่บ้าน และคาดหวังว่าจะนำไปใช้กับลูกชาย หัวแก้วหัวแหวน แต่ไม่สามารถใช้ได้เพราะ ลูกของเขา ดันไปสวมหมวกของ “ความเป็นลูกชาย” ไม่ใช้ ความเป็นลูกน้อง จึงทำให้สถานะของทั้งสองต่างกัน และเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย แต่หากคุณกังวล จอมเครียด ถอดหมวกของความเป็นเจ้านายออกไว้ที่ทำงาน แล้วหยิบหมวกใบใหม่ ที่ใส่ “ความเป็นพ่อ” กลับไปบ้านซึ่งมีทั้งความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว ก็จะไม่ทำให้เกิดรอยแยกของสองพ่อลูก ก็จะทำให้ครอบครัวอยู่อย่างมีความสุขไงครับ

หรืออีกตัวอย่างที่ใกล้ตัวเราคือเรื่องของการที่มีใครบางคนต้องตกงาน ถูกเลิกจ้าง หรือเกษียนอายุงานออกไปแล้ว เราจะเห็นว่าเขาเหล่านั้นขาดความสุขในการดำเนินชีวิต เพราะการที่ต้องเป็นคนว่างงานนั้นเสมือนหมวกใบที่เคยใส่อยู่นั้นต้องถูกถอดออกเลยทำให้หาความสุขไม่ได้ ผู้เขียนขอให้แง่คิดกับกรณีดังกล่าวว่า หมวกที่เขาถอดออกหรือนำกลับไปนั้นเป็นแค่หมวกธรรมดาเท่านั้น แต่ตัวตนที่แท้จริงของเรา ความเป็นตัวเราจะคงอยู่กับเราตลอดไป เรามิได้ขายจิตวิญญาณหรือความเป็นตัวเราไปกับหมวกใบนั้น ใบหนึ่งไป ใบใหม่เข้ามาแทนที่ ความเป็นตัวเราเท่านั้นที่คงอยู่ตลอดไป แล้วเราจะไปเป็นทุกข์กับการต้องเปลี่ยนหมวกทำไม สู้คงความเป็นตัวเรา และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดีกว่าใช่ไหมครับท่านผู้อ่าน

สุดท้ายนี้ผมมีข้อคิดที่หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินกันนะคับ “คนเราเลือกเป็นในสิ่งที่อยากเป็นไม่ได้ แต่คนเราสามารถเลือกกระทำในสิ่งที่เราอยากทำได้ ทำไมไม่เลือกกระทำในสิ่งที่ทำให้ตัวเรามีความสุขกันละครับ” แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่าต้องไม่อยู่บนความทุกข์หรือความเดือนร้อนของผู้อื่นนะครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. แล้วหมวกใบที่เจ็ดอะครับ - -*

    ตอบลบ
  2. หมวกใบที่เจ็ดไม่มีครับ เพราะผมนำหมวกที่ต่อจากใบที่หก ไปไว้ในกล่องภายในหมวกใบที่หกแล้วครับ ^-^

    ตอบลบ