วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักในการพัฒนาประเทศ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักในการพัฒนาประเทศ
บทนำ
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อความเจริญก้าวหน้า เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก และเป็นที่เชื่อกันว่าความสำคัญของการท่องเที่ยวจะมีมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง และการท่องเที่ยวกลายเป็นแหล่งที่มาของเงินตราต่างประเทศที่สำคัญที่สุด การเดินทางท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมธรรมชาติของมนุษย์ที่มีมาแต่โบราณกาล และได้พัฒนาการมาเป็นลำดับ ยิ่งมีความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งก็ยิ่งทำให้การเดินทางท่องเที่ยวขยายวงกว้างออกไป โดยมีวัตถุประสงค์ต่างๆ หลากหลายกันไม่ว่าเพื่อธุรกิจ เพื่อนันทนาการ และเพื่อศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้เคยเห็น การเดินทางท่องเที่ยวซึ่งเป็นกิจกรรมอันเป็นส่วนบุคคลเหล่านี้ได้เติบโตรวมกันเป็นกลุ่มก้อนขึ้นจนกระทั่งต้องอาศัยเทคนิควิชาการเฉพาะ การวางแผน การจัดองค์การ และการตลาด รวมเข้าแล้วเรียกว่า “อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของนานาประเทศในปัจจุบัน
ทางด้านสังคม การท่องเที่ยวก็เป็นการพักผ่อนที่ช่วยลดความตึงเครียด พร้อมๆ กับสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้มาเยือนและเจ้าของท้องถิ่น จึงเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
ภาวะการท่องเที่ยวของประเทศนั้น กลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นดัชนีวัดสภาวะทางเศรษฐกิจและอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หากอุตสหกรรมการท่องเที่ยวเป็นไปในทิศทางที่สดใสก็จะส่งผลดีทางด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตและการสร้างงานของประเทศนั้นๆ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงถือได้ว่าเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่แสดงบทบาทเด่นชัดในแต่ละปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนถึง 14,149,841 คน เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2551 มีอัตราลดลงของนักท่องเทียวคิดเป็น 2.98% (Immigration Bureau, Royal Thai Police,) ส่งผลทำให้รายได้ที่มาจากนักท่องเที่ยวลดลง นับเป็นมูลเหตุของการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญทำให้ภาครัฐต้องออกมาจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นพลังของการขับเคลื่อนทั้งส่วนเล็กและส่วนน้อยที่ช่วยกันผลักช่วยกันดันให้อุตสาหกรรมนี้เคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และแสดงบทบาทนำในการเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งนำไปสู่การจ้างงาน สร้างอาชีพ การกระจายรายได้และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากมายหลายร้อยสาขา เป็นการสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชน และประเทศชาติ และนำไปสู่ความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย
เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความสำคัญในการนำรายได้เข้าประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นย่อมเป็นที่มาของรายได้ของประเทศในรูปแบบของการสร้างงาน สร้างอาชีพ ในสาขาธุรกิจที่เกี่ยวข้องไปด้วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ ธุรกิจด้านการขนส่ง(Logistics) ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร และธุรกิจการจัดนำเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยทางอ้อม ได้แก่ การผลิตสินค้าทางการเกษตร สินค้าหัตถกรรมต่าง ๆ เสื้อผ้า เครื่องประดับ และการผลิตสินค้าของที่ระลึก อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปยังทุกพื้นที่ทั้งในเมืองและในชนบท ซึ่งมีส่วนช่วยในการพื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีในทางอ้อมและทำให้เกิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนสาธารณูปโภคต่าง ๆ ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงของประเทศให้เป็นที่รู้จักในสังคมโลก ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในเวทีระหว่างประเทศในยุคโลกาภิวัตน์ได้เป็นอย่างดี


ภาวะการท่องเที่ยวในประเทศไทย
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยนั้น มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเฉลี่ยประมาณ 14 ล้านคนต่อปี โดย East Asia เป็นกลุ่มที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมากที่สุด คือกว่า 7 ล้านคนต่อปี รองลงมาได้แก่ Europe ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกว่า 3 ล้านคนต่อปี และ อเมริกาตามลำดับ
ตารางที่ 1 สถิตินักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยใน ระหว่างปี 2550-2552(Number of International Tourist Arrival 2007-2009)

ตารางที่ 2 มูลค่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยในระหว่างปี 2548-2552


ตารางที่ 3 ข้อมูลเปรียบเทียบมูลค่าการท่องเที่ยวกับมูลค่าการส่งออกของ ประเทศไทยในระหว่างปี 2548-2552

จากตารางที่ 3 ข้อมูลเปรียบเทียบมูลค่าการท่องเที่ยวกับมูลค่าการส่งขอประเทศไทยในระหว่างปี 2548-2552 เราจะพบว่ามูลค่าของการท่องเที่ยวในแต่ละปีมีมูลค่าสูงขึ้นและจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายได้มวลรวมของประเทศ แสดงให้เห็นว่าการสร้างผลผลิตของชาติ (Gross Domestic Product: GDP) นั้น เกิดขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ ธุรกิจด้านการขนส่ง (Logistics) ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร และธุรกิจการจัดนำเที่ยว และ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยทางอ้อม อาทิ การผลิตสินค้าทางการเกษตร สินค้าหัตถกรรมต่างๆ เสื้อผ้า เครื่องประดับ และการผลิตสินค้าของที่ระลึก เป็นต้น

บทสรุป
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น จึงขอสรุปความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อการพัฒนาภาคเศรษฐกิจสังคมและการเมืองดังนี้
1. ก่อให้เกิดรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ และมีส่วนช่วยในการสร้างเสถียรภาพให้กับดุลการชำระเงิน
2. รายได้จากการท่องเที่ยวจะมีผลทวี ผลในการสร้างรายได้ก่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแบบมูลค่าเพิ่ม ส่งผลให้ผลผลิตมวลรวมของประเทศ(GDP)มีค่าทวีคูณ อีกทั้งยังเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงการพัมนาคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นของประชาชน
3. ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และก่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างขว้างขวาง
4. ก่อให้เกิดการสนับสนุนฟื้นฟูและอนุรักษ์ศิลปวัมนธรรมประเพณที่ดีงาม
5. ก่อให้เกิดการพัฒนาความเจริญสูภูมิภาค จากการขยายตัวของการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ

ข้อมูลอ้างอิง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, (2551). รายงานผลการดำเนินงานของการท่องเที่ยงแห่งประเทศไทยประจำปี2550. กรุงเทพฯ: ผู้แต่ง
ฉันทัช วรรถนอม. (2552). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: สามลดา
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2548). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: เพรส แอนด์ ดีไซน์
สุชาติ ธาดาธำรงเวช. (2553). ปรัชญาการบริหารระบบเศรษฐกิจ. กรุงเทพฯ: มิ่งมิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น